ผู้รับจำนำ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ผู้รับจำนำต้องสืบสวนพยานเกี่ยวข้องรถให้ดีว่ารถที่จะรับจำนำนั้นเป็นรถของผู้นำมาจำนำหรือเปล่า วิเคราะห์ดูบันทึกประจำวันหนังสือขึ้นทะเบียนรถ ดูในช่องผู้ถือกรรมสิทธิ์ว่าเป็นชื่อของผู้นำรถมาจำนำหรือไม่ ถ้าไม่ใช่จะต้องมีรายงานเห็นด้วยหรือมอบสิทธิ์ของผู้ประดิษฐ์ผู้ถือสิทธิ์ขาด หมายรวมเอกสารอื่น ๆ ที่ยุ่งเกี่ยว เช่น สำเนาทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน ทะเบียนสมรส หนังสือยินยอมของคู่ใจ (ถ้ามี) กับในที่สุดก็กติกาจำนำ เอกสารทุกสิ่งจะต้องให้ผู้นำรถมาจำนำลงลายมือชื่อรับแขกความแม่นยำให้พร้อม
ผู้รับจำนำที่ไม่ซื่อตรง คือ รับจำนำรถที่ถูกโกงมา ซึ่งมิใช่รถของผู้นำมาจำนำ ต่างว่ามีจงใจกินนอกกินในแบบนี้ คือเพื่อเสี่ยงเพราะเห็นแก่ดอกเบี้ยอันเกิดจากการรับจำนำเปอร์เซ็นต์ 10 บาทต่อเดือน โดยไม่คิดถึงหลักกฎหมาย ถือว่าเข้ากฎการรับของโจร เป็นความผิดพลาดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 มีโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เราจะเข้าใจแจ่มแจ้งได้อย่างไรว่าคนนั้นคนนี้รับจำนำรถไว้โดยไม่สุจริต มีหลักในการตรวจสอบว่า บุคคลนั้นหวังอะไรจากการรับจำนำ ถ้าหวังดอกเบี้ยอันเกิดจากการรับจำนำรถโดยไม่คำนึงถึงว่ารถคันนั้นเป็นรถที่ถูกต้มตุ๋นมา ถูกลักมา หรือเป็นรถที่ได้มาด้วยการกระทำความผิดอื่น (ตามมาตรา 357) คือรับไว้เพื่อขวายขวนผลกำไรที่มิควรได้โดยชอบใจด้วยกฎหมายเช่นนี้ ในทางกฎหมายก็ถือว่าผู้รับจำนำนั้นมีเจตนาทุจริต การดำเนินการตรงนั้นก็เป็นความผิดพลาดฐานรับของโจร
ทัณฑ์ฐานรับของโจร เป็นความผิดต่อชาติ เป็นคดีตกลงความไม่ได้ ต่างกับข้อความแรกที่ผู้เช่าซื้อคดโกงรถแล้วนำมาจำนำ ด้วยกันโทษทางอาญาก็ตรงกันข้าม ฉะนั้นผู้รับจำนำที่ทุจริต มีสิทธิติดคุกฐานรับของโจร ส่วนผู้นำมาจำนำ ถ้าปรากฎว่ายักแยกทรัพย์เขามา เช่น ยืมมา เช่ามา เช่าซื้อมา ฯลฯ แล้วนำมาจำนำ อย่างนี้ ก็มีสิทธิติดคุกฐานยักยอกได้เหมือนกัน แต่โทษเบากว่ารับของโจร และยังเป็นความผิดอันตกลงความได้ด้วย
ถ้าหากคิดจะรับจำนำรถใครไว้เพื่อหวังดอกจำนำรายเดือน โปรดสำรวจรถคันนั้นให้ดีว่า เป็นรถที่แน่เทียวตามกฎหมายหรือไม่ ผู้นำรถมาจำนำเป็นเจ้าของผู้ถือสิทธิ์ขาดในรถนั้นหรือไม่ ข้อรับรองของรถตรงหรือไม่ หากพบว่าทุกอย่างแม่นสุภาพ จึงทำสัญญารับจำนำ อย่ารับจำนำรถโดยมิชอบด้วยกฎหมาย งั้นแทนที่จะได้รับดอกเบี้ยตามที่หวัง อาจจะกลายเป็นเสียเงิน และเสียอิสรภาพแทน